PROSPECT REIT โชว์ผลงานปี 2567 ฟอร์มสวย จ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยทั้งปีที่ 0.8560 บาทต่อหน่วย ยีลด์ 10.07% ชี้ดีมานด์เช่าคลังสินค้าและโรงงาน บางนา-ตราด ยังแกร่ง

กรุงเทพฯ, 14 กุมภาพันธ์ 2568 – บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ “PROSPECT REIT” เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 ทำรายได้รวมทั้งปีแตะ 599.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.61% และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 336.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.66% เมื่อเทียบกับปี 2566 ตอกย้ำสถานะทางการเงินแข็งแกร่งและเติบโตมั่นคงท่ามกลางความท้าทาย และด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับทิศทางการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายมายังประเทศไทย อ้างอิงจากยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก บีโอไอ ปี 2567 รวมมูลค่าการลงทุนกว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลดีต่อดีมานด์การเช่าคลังสินค้าและโรงงาน ทำให้อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ณ สิ้นปี 2567 สูงถึง 93.51%

ขณะที่ไตรมาส 4/2567 กองทรัสต์มีรายได้รวม 150.85 ล้านบาท มีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 84.73 ล้านบาท จึงพิจารณาจ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยในรูปแบบประโยชน์ตอบแทน (ปันผล) และเงินเฉลี่ยคืนทุน ที่อัตรา 0.2150 บาทต่อหน่วยทรัสต์ กำหนดขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 4 มีนาคม 2568 และจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 18 มีนาคม 2568 เมื่อรวมกับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จะจ่ายเงินออกให้ผู้ถือหน่วยรวม 0.8560 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 10.07% เมื่อเทียบกับราคาตลาด ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2567 (8.50 บาทต่อหน่วย)

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 ของ PROSPECT REIT รายได้รวมลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เนื่องจากเป็นช่วง Business Cycle ในการตัดสินใจขยาย ลดขนาดหรือปรับเปลี่ยนแผนการทำธุรกิจ ซึ่งล่าสุดมีผู้เช่ารายใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์อิเล็กทรอนิกส์ เซ็นสัญญาเช่าอาคารกว่า 10,000 ตร.ม. และหากมองภาพรวมปี 2567 ถือเป็นปีแห่งการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ PROSPECT REIT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 โครงการใหม่ ทำเลทอง บางนา-ตราด ได้แก่ โครงการ BFTZ 2 ถนนเทพารักษ์ และ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมเมื่อปี 2566 มีอัตราการเช่าเต็ม 100% สะท้อนความเชี่ยวชาญในการคัดสรรทรัพย์สินคุณภาพสูง สามารถสร้างการเติบโตในระยะยาว พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์การบริหารจัดการพอร์ตอย่างมืออาชีพและรัดกุม สร้างสมดุลในการกระจายความเสี่ยงทั้งอุตสาหกรรมและสัญชาติของผู้เช่าที่หลากหลาย มุ่งขยายมูลค่าสินทรัพย์ต่อเนื่องในจังหวะที่เหมาะสม”

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 4/2567 กองทรัสต์มีพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานให้เช่า จำนวน 4 โครงการ รวมประมาณ 292,332 ตารางเมตร ด้วยสิทธิประโยชน์ของพื้นที่ Free Zone เขตปลอดอากร ที่อยู่ภายใต้การจัดการกว่า 63% ของพื้นที่เช่าทั้งหมด และอาคารคุณภาพบนพื้นที่ผังเมืองสีม่วง ซึ่งผู้ประกอบการนิยมเช่าสำหรับจัดตั้งโรงงาน สนับสนุนให้มีอัตราการเช่าพื้นที่และอัตราการต่อสัญญาอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด โดยมีกลุ่มผู้เช่าจากหลายประเทศ ได้แก่ ไทย, จีน, ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกาและอื่น ๆ ครอบคลุมอุตสาหกรรมชั้นนำ อาทิ ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลและเวชภัณฑ์ ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจวัสดุอุตสาหกรรม และเครื่องจักรธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ เป็นต้น

นางสาวอรอนงค์ กล่าวเสริมว่า “ก้าวต่อไปในปี 2568 ยังเห็นสัญญาณบวกจากนโยบายการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ สำหรับแผนการบริหารงานเพื่อขับเคลื่อนการเติบโต ผู้จัดการกองทรัสต์ยังคงยึด 3 แกนหลัก นั่นคือ การรักษาระดับอัตราการเช่าให้สูงกว่า 90% พร้อมกับรักษาฐานผู้เช่าเดิม (Renewal Rate) อย่างยั่งยืน จากผลการดำเนินงานในอดีต มีผู้เช่าต่อสัญญาต่อเนื่องสูงสุดเกิน 3 รอบ เป็นเวลามากกว่า 10 ปี รวมถึงดูแลอัตราค่าเช่าเฉลี่ย (ARR) ให้เทียบเท่าหรือสูงกว่าราคาตลาด บนพื้นฐานศักยภาพของอาคารพรีเมียมเกรด A ก่อให้เกิดความมั่นคงทางรายได้ นำไปสู่การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันสภาวะผันผวนของตลาดทุนไทยยังช่วยเพิ่มโอกาสลงทุนใน Industrial REIT ที่เป็นทางเลือกสินทรัพย์ปลอดภัยในการให้ผลตอบแทนแข็งแกร่ง ความเสี่ยงที่ไม่สูงมาก สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยขาลง”

นอกจากนี้ แผนการลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ในพื้นที่ส่วนที่เหลือใน 3 โครงการเดิม พื้นที่เช่ารวมกว่า 221,678 ตร.ม. มูลค่าไม่เกิน 3,350 ล้านบาท ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน วางแผนให้สอดรับกับสภาวะตลาดในภาพรวม โดยจะลงทุนในรูปแบบสิทธิการเช่า (Leasehold) และกรรมสิทธิ์ (Freehold) ทำให้คาดการณ์ว่าภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ PROSPECT REIT จะมีทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ Freehold อยู่ที่ประมาณ 31.40% ซึ่งจะส่งผลดีต่อกองทรัสต์ในระยะยาว

เกี่ยวกับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (“PROSPECT REIT”) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 ในวันที่ 18 สิงหาคม 2563 เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบัน PROSPECT REIT มีทรัพย์สินที่ลงทุนรวม 4 โครงการ 1) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 (BFTZ 1) 2) โครงการ X44 BANGNA KM.18 3) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 (BFTZ 2) 4) โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 3 (BFTZ 3) พื้นที่ให้เช่ารวม 292,332 ตร.ม. และ PROSPECT REIT มีนโยบายการลงทุนที่มุ่งเน้นทรัพย์สินประเภทอาคารคลังสินค้าและโรงงาน ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และผลตอบแทนที่เหมาะสม ทั้งในทรัพย์สินที่เป็นของเจ้าของทรัพย์สินหลัก (Sponsor) และทรัพย์สินของผู้พัฒนารายอื่น โดยในปัจจุบันเจ้าของทรัพย์สินหลัก (Sponsor)  ยังมีโครงการระหว่างการพัฒนาที่มีศักยภาพทั้งในพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่อื่นอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง  www.prospectreit.com | https://www.facebook.com/ProspectRM

Facebook Comments Box
error: Content is protected !!